รีวิวหนัง : One Cut of the Dead

รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีภาพยนตร์จากประเทศญี่ปุ่นเรื่องหนึ่งสร้างกระแสบวกแบบปากต่อปากในโลกออนไลน์ จนทำเอาหลายคนสนใจตีตั๋วเข้าไปพิสูจน์ความเจ๋งของมัน ใช่แล้ว !! ผมกำลังพูดถึงหนังตลกสุดเซอร์ไพรส์อย่าง One Cut of the Dead (วันคัท ซอมบี้งับ ๆ) ที่ดังมาก ๆ ในขณะนี้นั่นเอง รีวิวหนังผี หนังสยองขวัญ

One Cut of the Dead เล่าเรื่องของทีมงานถ่ายทำภาพยนตร์ทุนต่ำกลุ่มหนึ่ง ประกอบด้วยผู้กำกับสติแตก, ช่างแต่งหน้าผู้คลั่งไคล้ศิลปะป้องกันตัว, พระเอกจอมเรื่องมาก, นางเอกที่เล่นแข็งเป็นหิน, เด็กกองดวงซวย, นักแสดงสมทบขี้เมา ฯลฯ เดินทางไปยังโรงงานร้างไกลปืนเที่ยง เพื่อถ่ายทำหนังซอมบี้สยองขวัญ แบบเทคเดียวจบ (ไม่คัท ไม่ตัดต่อ) ทว่าระหว่างที่ถ่ายทำกันอยู่ กลับมีแขกไม่ได้รับเชิญ อย่างซอมบี้ตัวจริงที่อยู่ในแถวนั้นบุกเข้ามาอาละวาดจนกองถ่ายปั่นป่วน จนทุกคนในกองต้องสู้ เพื่อเอาชีวิตรอดกลับไปให้ได้

ดูจากโปสเตอร์หนังที่ถูกออกแบบในสไตล์หนังเกรดบี ผสมกับตัวอย่างภาพยนตร์ที่ดูสุกเอาเผากิน บอกตรง ๆ ว่าไม่น่าเป็นหนังที่ดึงดูดคนทั่วไปให้ยอมเสียเงินเข้าไปดูได้เลย แต่เมื่อมีผู้ชมที่กล้าเสี่ยงซื้อตั๋วเข้าไปดู แล้วออกมาพูดชื่นชมกันแบบปากต่อปากถึงคุณงามความดีของมัน ผู้เขียนที่นึกลังเลอยู่ทีแรกก็ตัดสินใจออกไปลุยดูบ้าง

ก่อนเดินออกจากโรงมาแล้วด่าตัวเองในใจ บ้าที่สุด !! เกือบพลาดหนังดีประจำปีนี้ไปซะแล้ว (คนเราไม่ควรตัดสินกันที่ภายนอกจริง ๆ ฮา)

เกริ่นที่มาของมันสักนิด One Cut of the Dead คือ หนังตลกอินดี้จากแดนปลาดิบ ที่ใช้ทุนสร้างถ่ายทำกระจิ๊ดริดแค่ 3 ล้านเยน ถ่ายทำกันแค่ 8 วัน ก่อนเข้าฉายในบ้านเกิดแบบจำกัดโรง ทว่าด้วยไอเดียการเล่าเรื่องที่แหวกใหม่ และตลกแบบเป็นธรรมชาติ ทำให้หนังเรื่องนี้ถูกบริษัทใหญ่ซื้อไปฉายในโรงภาพยนตร์แบบวงกว้างมากขึ้น จนกลายเป็นเซอร์ไพรส์ฮิตที่ญี่ปุ่น และออกไปกวาดรางวัลในเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศ แถมยังได้รับคำวิจารณ์ที่ดีมาก 100% ในเว็บไซต์วิจารณ์หนังชื่อดัง แบบที่ทีมงานและนักแสดงเองยังยอมรับว่า งง ๆ อยู่เหมือนกันที่หนังดังเกินคาดแบบนี้

ตัวหนังแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ ภาพยนตร์สั้นปะหัวที่ปล่อยให้นักแสดง และผู้กำกับในเรื่องวิ่งหนีซอมบี้กันยาว ๆ ถึง 37 นาทีแบบไม่มีตัดต่อ ลองเทคกันไปเลย ซึ่งช่วงนี้ถือเป็นจุดวัดใจท่านผู้ชมเหมือนกันว่า จะอดทนดูไปจนจบได้หรือไม่ เพราะตลอดทางเต็มไปด้วยความไม่สมบูรณ์แบบในหลายจุดตามสไตล์หนังเกรดบี คนที่คุ้นเคยกับหนังโปรดักชั่นสวย ๆ ถ่ายภาพแจ่ม ๆ คงหงุดหงิดไม่น้อย (สาวสวยท่านหนึ่งที่นั่งเก้าอี้ข้างผู้เขียนถึงกับลุกออกจากโรงกลางคันไปเลย)

แต่ถ้าคุณนั่งดูจนผ่านช่วงแรกไปได้ คุณก็จะพบกับส่วนที่สองของหนัง นั่นคือ การเปิดเผยเรื่องราวก่อนถ่ายทำหนังซอมบี้ลองเทคของ ผกก. และตัวละครในเรื่องว่า มีที่มาที่ไปอย่างไรในสไตล์ “หนังซ้อนหนัง” ซึ่งน่าเสียดายว่า ผู้เขียนเปิดเผยรายละเอียดของมันได้เพียงเท่านี้ เพราะกลัวว่าจะเป็นการสปอยล์ ……. แต่บอกเลยว่า เมื่อหนังเข้าสู่ช่วงนี้ มันก็ตอบแทนคนดูอย่างสาสม ด้วยการประเคนมุกตลกแบบไม่มีกั๊ก จนทำให้โรงหนังทั้งโรงกลายเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะราวกับระเบิดลงเลยทีเดียว

แม้ฉากหน้าของหนังจะเคลือบไปด้วยมุกตลกแพรวพราวจนต้องยกนิ้วให้ แต่ความจริงแล้ว One Cut of the Dead แฝงประเด็นที่น่าสนใจนั่นคือ การตีแผ่การทำงานของกองถ่ายหนัง ที่เปิดเผยให้เห็นเลยว่า กว่าจะได้หนังแต่ละเรื่องที่เสิร์ฟออกมาให้ดูกัน เหล่าทีมงานต้องเจอกับปัญหาวายป่วงขนาดไหน ดังที่เห็นกันในเรื่องนี้ อาทิ เจ้าของบริษัทที่มอบโจทย์ให้คนทำหนังกิ๊กก๊อก สร้างหนังที่ดีที่สุดในเงื่อนไขอันจำกัด, นักแสดงหน้าใหม่ที่อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ  เอาแต่ใจตัวเอง, ทีมงานที่ทำงานแบบชุ่ย ๆ รวมถึงการรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อระหว่างถ่ายทำ ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่า น้อง ๆ นักศึกษาที่เรียนด้านภาพยนตร์ หรือทีมงานกองถ่ายบ้านเราที่ดูหนังเรื่องนี้น่าจะอินกันเป็นพิเศษทีเดียว

One Cut of the Dead อาจไม่ใช่หนังที่มีทุนสร้างสูง ถ่ายภาพสวย ๆ หรือมีเทคนิคการถ่ายทำที่แพรวพราว แต่มันก็พิสูจน์ให้คนทำหนังเห็นแล้วว่า ขอเพียงคุณมีไอเดียที่แจ่มแจ๋ว เนื้อหาที่เข้าใจง่าย พร้อมถ่ายทอดมันออกมาอย่างเฉียบคมแบบไม่ต้องเล่นท่ายากจนเกินไป ก็สามารถชนะใจคนดูอย่างอยู่หมัดได้เหมือนกัน

ปล.ขอแสดงความเสียใจกับสาวสวยคนนั้นที่ลุกออกจากโรงไปก่อน เพราะน้องพลาด 1 ในหนังที่ดีที่สุดประจำปีนี้ไปแล้วครับ ฮา ๆ